วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อดทนไว้นะ อยากให้รู้ว่ายังมีคนร้องไห้เป็นเพื่อนเธอ

วันนี้ต้องเดินทางกว่าสองร้อยกิโลมาพักต่างเมือง เพื่อการศึกษามหาวิทยาลัยจองโรงแรมให้หนึ่งคืนแต่ว่าต้องเติมน้ำมันขับรถมาเองแต่อัลฮัมดุลิละห์เป็นคนชอบขับรถไม่เป็นไร
ระหว่างทางโหลดไฟล์บรรยายของเชคมาเป็นเพื่อนรวมทาง
หัวข้อที่ฟังและเสียน้ำตากับมันเรื่องแรกคือ อากีดะห์ การศรัทธาต่อคัมภีร์ เล่าให้ฟังคราวๆนะคะ ว่าเชคพูดว่าอะไร
อยากให้พี่น้องได้ไปหาฟังเพราะฟังแล้วต้องรู้สึกค่ะ ถ้ายังมีอีหม่านอยู่ในใจและทบทวนตัวเองตามที่เชคบรรยาย
เชคบอกว่าหรือว่ามุสลิมจะแค่รู้ว่าอัลกุรอ่านเป็นคัมภีร์ แต่เราทำตัวเหมือนคนไม่มีคัมภีร์ คือคัมภีร์กรุอ่านไม่มีผลอะไรกับความรุ้สึกและการกระทำของเราเลย
มุสลิมไม่รู้ความหมายกรุอ่าน และไม่เอากรุอ่านมาใช้ในชีวิตของเขาน่าเสียใจสะนี้กะไร
เชคเล่าว่า มุสลิมเหมือนเด็กกำพร้า... กำพร้าคัมภีร์ มีสัจธรรมมีความจริงอยู่ในมือแต่ไม่สนใจละเลย
ลองตรวจสอบกันดู
พี่น้องจำเหตุการณ์ตอนนบีฮิจาเราะฮ์จากมักกะ ไปมาดีนะ กับอบูบัร ได้มั๊ยค่ะที่นี้ลองทบทวนสิงที่เกิดในตอนนั้น
ใครบ้างที่มีความรู้ในเรื่องนี้ว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นนบีและอบูบัรเข้าไปหลบในถ้ำและอัลลอฮ์ได้บรรดาลให้แมงมุมมาชักใยหน้าถ้ำ และมีนกพิราบมาสร้างรังและออกไข่ไว้หน้าถ้ำ ใครรู้เรื่องนี้บ้าง
ถ้าคุณรับรู้เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัตินบีมูฮัมหมัด ขอแสดงความดีใจด้วยว่า ท่าน....................................
ท่าน..............................
ท่าน..............................
ถูกหลอก :P :P :P :P :P :P :P :P :P 5555555555555555555555555555555
ท่านกำพร้าคัมภีร์ค่ะ เพราะว่าเรื่องราวที่เพิ่งบรรยายไปข้างต้นนั้นเป้นนิยายปรัมปรามากจา หนังสือบาราเฏาะ ที่เขาอ่านกันในงานเมาลิดและมาจากหนังประวัตินบีมูฮัมหมัด แต่ไม่ได้มาจากอัลกรุอ่านค่ะ เศร้ามั๊ยเอย แปลว่าเราเรียนรู้ประวัตินบีจากหนังและนิยายค่ะเศร้าม่ะละ
แต่ที่เศร้าไปกว่านั้นคือเชคได้นำเอาฮาดีษเกี่ยวกับสัญญาณวันกียามัตและจากกรุอ่านมาเสนอว่า...
ใกล้วันกียามัต อัลลอฮ์จะยีดกรุอ่านกลับไปยังพระองค์ ลองคิดดูสิวันนี้ เรามีกรุอ่านในกี่รูปแบบทั้งไฟล์เสียง ในเวป เป็นเล่ม เป็นซีดี มีทั้งตัวกรุอ่านและความหมายของกรุอ่าน
ผู้เขียนเองยังรุ้สึกผิดที่ยังอ่านกรุอ่านไม่เป็นเลย ตัวอาหรับก็ยังจำไม่ได้เพราะว่าช่างยุ่งกับดุนยาเสียนี้กระไร อ่านความหมายกรุอ่านได้จบไปเพียงจบเดียวใช้เวลากว่า สองปี แต่ทำไม อ่านภาษาอังกฤษได้ อ่านเอกสารวิชาการประกอบการเรียนได้เป็นพันเป็นหมื่นหน้า ภาษาก็ต่างภาษาเหมือนกัน อ่านแฮรี่พอตเตอร์ได้ครบทุกเล่มทั่งสองภาษา อ่านหนังสือประกอบการเรียนและการสอนมาน่าจะมากกว่าร้อยเล่มแล้วแต่ทำไมช่างละเลยกรุอ่านขนาดนี้ แล้วพี่น้องละคะ ที่อ่านภาษาอาหรับได้ อ่านไทยก็ได้ อ่านมาลายูก็ได้ อ่านกรุอ่านหรือยังค่ะวันนี้ แล้วหลังจากอ่านแล้วกรุอ่านได้ถูกใช้เป็นฮูดาในชีวิตเรามากน้อยแค่ไหน หรือว่าเราจะกำพร้ากรุอ่านจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เศร้าเรื่องที่หนึ่งจบไปพร้อมการเสียน้ำตา

ทำไมศอฮาบะถึงเข้มแข็ง เขาก็คนเหมือนกับเรา ทำไมอีหม่านเขาแข็งแรงกันนักทำไมเมื่ออัลลอฮ์สั่งในญีฮาด เขาสละชีวิตกันได้
แต่ทำไม เราคนเหมือนกันเกิดหลังพวกเขาพันกว่าปี มีทุกอย่างสะดวกทุกอย่างวิทยาการไปไกลจะทำอะไรก็ง่ายกว่า แต่ทำไมเราอ่อนแอ
ทำไมเค่สิ่งเล็กๆ น้อยที่กรุอ่านบอกให้ทำให้ละหมาด ให้ซะกาต ให้ญิฮาดแค่กับตัวเอง ก็ยังทำไมได้ อย่าว่าเอาชีวิตไปสละเพื่ออิสลามเลย
แค่เงินจะซอฏอเกาะ ยังออกจากกระเป๋าบางคนไม่ได้
ขับรถสองชม.ครึ่ง เพราะเหยียบร้อยนิด มาตลอดทางก็มาถึงมหาวิทยาลัยเนื่องจากเป็นวันทำงาน(เรียน) เลยไปอยู่ที่ห้องสมุดและยืมหูฟังมาฟังบรรยายต่อระหว่างนั้นก็ไปหอบหนังสือมาค้นมาอ้างอิงงานเขียนสะหน่อย
ก็บังเอิญไปเจอคุตบะฮ์ของเชค เรื่องพี่น้องที่ปาเลสไตน์ ไม่ผิดหวังเลยที่ได้ฟัง อีหม่านโดนปลุกอีกครั้ง ทำไมเราเป็นอย่างนี้นะ
ในคุตบะฮ์นี้ เชคพูดถึงสถานการณ์ของพี่น้องในปาเลสไตน์ และโยงมาถึงความเป็นไปของพี่น้องชาวไทยของเราต่อสถานการณ์นี้ เชคได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ที่ทำให้เราต้องนั่งร้องไห้หน้าคอมพิวเตอร์ในห้องสมุด และคนรอบๆ ก็ได้แต่มองด้วยความแปลกใจมันร้องอะไรของมันหว่า
เรืองที่เชคเรามันบีบหัวใจเหลือเกินๆจะห้ามไม่ร้องจริงๆ ก็เป็นคนร้องไห้เก่งอยู่แล้วอ่ะนะ แต่คราวนี้มันไม่ใช่แค่ร้องแต่มันเสียใจอ่ะ
เชคเล่าว่า จากเหตุกการณ์ที่ปาเลสไตน์ กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติได้ออกเรี่ยรายเงินเพื่อส่งไปช่วยพี่น้องที่ปาเลสไตน์ ยอดเงินถึงวันนั้นได้สี่แสนกว่าบาท จากมุสลิมเป็นล้านๆ กับเงินสี่แสน อาจจะบอกได้ว่าตัวเงินไม่สำคัญแต่ว่าคิดสิค่ะว่า พี่น้องปาเลสไตน์ไม่เหลืออะไรนอกจากอัลลออฮ์ เขามีบ้านอยู่มั๊ย เขามีอาหารกินมั๊ย สี่แสนจะพอมั๊ย แต่ยังไงก็ตามเขาได้ผลบุญแต่พวกเรากำลังโดนพี่น้องปาเลสไตน์ที่ถูกกระทำ ขอดุอาห์ให้อัลลอฮ์ลงโทษเราอยู่หรือเปล่า
เชคบอกว่ามีครุคนหนึ่งในโรงเรียนมุสลิมในจังหวัดสงขลา เอาเรื่องพี่น้องที่ปาเลสไตน์ไปเล่าให้นักเรียนฟังและขอให้นักเรียนบริจาคเงินเพื่อเอาไปสมทบกับกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ แล้วเรื่องราวบาดใจก็ออกจากคำบรรยายของเชค
เชคเล่าว่า พี่น้องทางภาคใต้ก็จนกันอยู่แล้วเทียบกับที่อื่นแล้วยิ่งเด็กนักเรียนยิ่งแย่เขาไปอีก
มีน้องสาวคนหนึ่งขออัลลอฮ์ช่วยตอบแทนความดีงามของน้องที่ทำให้พี่ได้เสียใจและสำนึกบ้างนะคะ
น้องคนนี้ ไม่มีสตางค์ค่ะ ไม่มีเงินจะไปช่วยพี่น้องของเธอที่ปาเลสไตน์ แต่เธอได้ทำบ้างอย่างที่น่ายกย่องเหลือเกิน เธอคิดว่าทำยังไงเธอจะสามารถช่วยพี่น้องของเธอได้ เธอจึงได้นำของใช้ส่วนตัวของเธอเช่น ฮีอาบและของเล่นของเธอไปมอบให้ครูแล้วบอกครูให้เพื่อนๆ ประมูลของๆเธอเพื่อเธอจะได้มีเงินไปช่วยพี่น้องที่ปาเลสไตน์ น้องสาวจ๋าพี่อยู๋รุ้จักน้องสาวจังทำไมน้องน่ารักอย่างนี้ (พิมพ์ก็ยังร้องอีก รอบสอง) เชคบอกว่าครูได้เงินรวมทั้งโรงเรียนมาพันนิดๆ แต่อัลลอฮ์น่าจะพอพระทัยความพยายามของพวกเขาเรานั้นแน่ๆ
แล้วเราละ มีสตางค์ในกระเป๋าเท่าไรแล้วบริจาคไปเท่าไร

ไม่รู้ว่าตัวเองคิดยังไงทำไมถึงได้อินกับพี่น้องมุสลิมมากมายขนาดนี้ ทำไมรู้สึกเหมือนเราเจ็บด้วย และรุ้สึกเหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ต้องช่วย แม้ว่าจะช่วยไม่ได้มาก หรือแม้จะช่วยไปแล้วก็ยังรุ้สึกอยู่เสมอว่ามันยังไม่พอ... ทำไมเราบกพร่องทำไมเราบอกว่าเราทำไปแล้ว ก็น่าจะเยอะแล้วนะ แต่เราก้ยังมีเงินซื้อโทรศัพท์ใหม่ ไปกินซูชิ............ ทำไมเป็นคนแบบนี้ เราช่างติดกับดุนยามากอย่างนี้เชียวหรือ แล้วอัลลออ์จะพอพระทัยเราได้อย่างไร ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนบีถึงบอกคนส่วนมากจะอยู่ในนรก แต่ก็ยังหวังว่าอัลลอฮ์จะเมตตาอนุญาติให้บ่าวของพระองค์คนนี้เข้าสวรรค์และยกโทษให้ความผิดของข้าพระองค์และให้ข้าพระองค์ห่างไกลจากนรกของพระองค์ด้วยเทอญ... ช่วยกันอามีนหน่อยนะ
วัสลาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น